ความรู้เรื่องปูนซีเมนต์

    ข้อดีของปูนฉาบสำเร็จที่หลายคนนึกไม่ถึงคือ 1.เรื่องความสะดวกสบาย เพราะสามารถผสมน้ำฉาบได้ทันที่ไม่ต้องเสียเวลาผสมและช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น 2.เรื่องความสเถียรของสูตร หรือ ส่วนผสมของเนื้อปูนเวลาใช้งาน เนื่องจากออกแบบส่วนผสมมาอย่างถูกต้องจากโรงงานผลิต เพียงนำมาผสมกับน้ำแล้วกวนให้เข้ากัน ก็สามารถนำมาใช้ในงานก่อ งานฉาบ งานปูกระเบื้อง และงานอื่นๆ ได้ทันที 3.ช่วยให้ประหยัด ในแง่ของการสั่งวัสดุสิ้นเปลืองต่างๆเช่นหินหรือทรายไม่ต้องเหลือใช้ เหลือกองเพื่อเก็บ และยังประหยัดค่าแรงงาน เพราะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น อัตราส่วนประมาณการใช้งาน ของปูน 1 ถุง เป็นดังนี้ ปูนฉาบสำเร็จ 1 ถุง ( ผสมน้ำประมาณ 9-12 ลิตร ) ฉาบหนา 5 มม. ฉาบได้ 5.12 ตร.ม./1ถุง ฉาบหนา 10 มม. ฉาบได้ 2.56 ตร.ม./1ถุง ฉาบหนา 15 มม. ฉาบได้ 1.71 ตร.ม./1ถุง การฉาบปูนทั่วไป ทั้งปูนผสม และ ปูนสำเร็จ […]

  ปูนก่อมี 2 ประเภทใหญ่ คือ ปูนก่อทั่วไป และปูนก่อสำเร็จพร้อมใช้ ส่วนผสมโดยทั่วไปของปูนก่อคือ ปูนซีเมนต์ ทราย และ หินบด โดยแตกต่างกันไปตามแต่ละสูตรของผลิตภัณฑ์แต่ละบริษัท หน้าที่ของปูนก่อคือใช้สำหรับก่อผนังอิฐบล๊อค อิฐมอญแดง หรือ อิฐมวลเบา ส่วนผสมที่ใช้กันในปัจจุบันของปูนก่อมีดังนี้ งานก่อผนัง ปูนก่อ 1 ส่วน : น้ำ 3 ส่วน : ทราย 1 ส่วน ตวงผสมให้เข้ากันแล้ว ใส่น้ำให้ มีความข้นเหลวพอเหมาะที่จะทำงานได้ เพื่อการยึดเกาะอิฐที่ดี นุ่ม เบามือ มีระยะแห้งตัว ที่พอเหมาะ จัดแนวก่อได้ง่าย ได้ผนังที่แข็งแรง ทนทาน ขนาดบรรจุโดยทั่วไปคือ 50 กก./ถุง โดยทั่วไปแล้ว ปูนก่อโดยทั่วไปที่น้ำหนักปูนถุงละ 50 กก.(เช่น ตราเสือ ทีพีไอ เขียว)มาผสมทรายกับน้ำแล้วก่อ ที่ความหนาประมาณ 1.5 ซม ก่ออิฐมอญแดงประมาณ […]

  ปูนตราเสือ เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อปูนที่ผลิตและจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยที่มีมาตรฐาน มอก.รองรับอยู่เป็นที่นิยมอันดับต้นในวงการของงานก่อสร้าง มีให้เลือกใช้งานแบบหลากหลายชนิดที่เหมาะกับงานก่อสร้างที่แตกต่างกันออกไป ในเรื่องของราคาก็ถือว่าคุ้มค่าต่อการใช้งานอย่างมากเพราะราคาที่กำลังพอดีไม่แพงจนเกินไป และราคาปูนตราเสือประเภทที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ก็มี ดังนี้ · ปูนซีเมนต์ตราเสือสีขาวขนาด 20 กิโลกรัม เหมาะสำหรับงานปูและงานยาแนวสร้างความคงทนและความสวยงามให้กับพื้นและผนังเป็นอย่างมาก เพิ่มความยึดเกาะที่ดีไม่ก่อให้เกิดการหดตัวและไม่แตกร้าวหรือหลุดล่อนง่าย ราคาอยู่ที่ 200 บาทต่อถุง · ปูนซีเมนต์ตราเสือที่เหมาะสำหรับงานเท ก่อ และฉาบ ขนาด 50 กิโลกรัม สำหรับใช้ในการเทพื้น ก่ออิฐและฉาบผนัง ให้ความง่ายและลื่นในการฉาบให้ความสวยงามและไม่หลุดล่อนง่าย มีความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกได้สูงและยังกันความชื้นให้ความสดใหม่ของปูนอยู่เสมอ ไม่ดูเก่าเร็วราคาอยู่ที่ 120 บาทต่อถุง · ปูนซีเมนต์ตราเสือเหมาะสำหรับงานฉาบสูตรพิเศษขนาด 40 กิโลกรัม เนื้อปูนนั้นมีความละเอียดสูงให้งานฉาบที่สวยงามประหยัดเวลาในการทำงาน กันชื้นและกันกระแทกได้สูงเหมาะสำหรับงานฉาบอิฐมอญและอิฐบล็อกราคาอยู่ที่ 125 บาท · ปูนตราเสือสำหรับงานฉาบทั่วไป ช่วยให้หมดปัญหาปูนหลุดร่วงในเวลาที่ทำการฉาบอยู่ช่วยให้ช่างสามารถปรับระดับการฉาบได้อย่างง่ายดายราคาอยู่ที่ 115 บาทต่อถุง และปูนตราเสือยังมีอีกหลากหลายชนิดที่มีราคาไม่สูง มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง เพิ่มความง่ายและประหยัดเวลาให้แก่ช่างที่ทำงานปูนได้เป็นอย่างดี และช่วยให้ส่วนต่าง ๆ ของบ้านแข็งแรงคงทนและอยู่คงสภาพอย่างยาวนาน  

  ปูนก่อเป็นปูนสำหรับงานก่ออิฐที่ต้องการยึดติดอิฐแต่ละก้อนให้แน่นหนาเพิ่มมากยิ่ง เพื่ออายุการใช้งาน ที่ยาวนานเพิ่มมากขึ้นการเรียงอิฐจึงจำเป็นต้องมีส่วนของปูนก่อเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ปัจจุบันมีปูนก่อหลายยี่ห้อที่จำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านวัสดุก่อสร้าง ปูนก่อจะถูกผสมผสานมาเป็นอย่างดีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมาผสมส่วนผสมใดเพิ่มนอกเสียจากน้ำเท่านั้น เพื่อความยืดหยุ่นของตัวเนื้อปูนในการใช้งาน ปูนก่อราคา จะแตกต่างกันออกไปตามปริมาณและยี่ห้อ ราคาปูนก่อส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 70-125 บาท โดยทั่วไปแล้ว ปูนก่อราคา จะถูกลงหากซื้อเป็นจำนวนมาก 1 ถุง จะมีปริมาณประมาณ 50 กิโลกรัม ซึ่งสามารถใช้งานงานก่อได้หลายตารางเมตรแต่ละถุง ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อปูนก่อจึงจำเป็นต้องวัดขนาดพื้นที่ที่จะก่อสร้างให้เหมาะสมต่อการสั่งซื้อปูนแต่ละครั้ง และต้องเช็คปริมาณปูนด้วยว่ามีปริมาณเท่าไหร่ต่อถุงเพื่อเป็นการลดต้นทุนในงานก่อได้เพิ่มมากขึ้นและ นำเงินที่เหลือไปใช้จ่ายในงานก่อสร้างส่วนอื่นได้อีก การสร้างโครงสร้างใดๆ ก็ตามจำเป็นต้องมีประกอบของปูนเข้ามาเป็นส่วนสำคัญทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น งานก่อ งานฉาบและงานเทพื้น ราคาของปูนแต่ละประเภทก็จะต่างกันออกไป ปูนก่อราคา ก็จะถูกลง มาจากปูนฉาบหรือปูนผสมชนิดพิเศษ ก่อนเลือกซื้อปูนแต่ละประเภทควรทำการตั้งงบประมาณและ วัดพื้นที่รวมถึงต้องเปรียบเทียบราคาปูนและคุณสมบัติในการใช้งานก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อหรือ สั่งซื้อปูนแต่ละประเภทมาใช้งาน    

ในยุคนี้เรื่องของการก่อสร้างวัสดุอุปกรณ์นับเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกใช้วัสดุที่ดีก็จะช่วยเรื่องลดเวลาการทำงาน ไปได้มาก เพราะวัสดุดีนั่นย่อมหมายถึง ทำงานได้เร็วและงานออกมาแบบมีคุณภาพ ช่างส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้ของที่ดี เพื่อจะได้ย่นระยะเวลาในการทำงาน ในปัจจุบันวัสดุอุปกรณ์ในแวดวงการก่อสร้างก็มีของสำเร็จออกมาให้เห็นและ ได้เลือกใช้กันมากขึ้นและที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้คือ ปูนฉาบสำเร็จ             ปูนฉาบสำเร็จนั้นมีราคาแพงกว่าปูนซีเมนต์ธรรมดาทั่วไปในท้องตลาด แต่ถ้าหากว่าคำนวณกันจริงๆ แล้วแทบ ไม่แตกต่าง เพราะว่าการที่เราใช้ปูนฉาบสำเร็จนั้น สิ่งที่ตัดออกไปได้เลยก็คือ เราไม่จำเป็นที่จะต้องสั่งซื้อทรายเพื่อมา ผสม เพราะปูนฉาบสำเร็จนั้นเราสามารถตัดถุงแล้วผสมน้ำใช้ได้ในทันที เพราะมีการคำนวณและผสมมาเรียบร้อยแล้วและข้อดีของปูนสำเร็จก็คือจะเรียบลื่นมากกว่าปูนที่เรานำมาผสมเองและยังป้องกันส่วนของงานในเรื่องรอยแตกร้าวได้ดีอีกด้วย             ส่วนในเรื่องของปริมาณหลังการผสมต่อปูนปูนฉาบสำเร็จหนึ่งถุง และปูนฉาบธรรมดาหนึ่งถุงนั้น เมื่อผสมออกมาแล้ว ปริมาณที่ได้สำหรับปูนฉาบสำเร็จน้อยกว่าปูนฉาบธรรมดา แต่ก็แตกต่างกันไม่มากนัก หากคิดในปริมาณความหนา ที่ฉาบเท่ากัน ปูนฉาบสำเร็จหนึ่งถุงจะฉาบได้ 2 ตารางเมตร ที่ความหนา 1 เซนติเมตร หากต้องการได้งานที่มีคุณภาพออกมาดี สะดวกและรวดเร็วและไม่เสี่ยงต่อรอยแตกร้าว ปูนฉาบสำเร็จเป็นตัวเลือกอีกอย่างหนึ่งในงานก่อสร้างที่นับว่าน่าสนใจไม่น้อย

ตอนนี้บ้าน ปูนทีพีไอ เปลือยหรือว่าบ้านสไตล์ลอฟท์นั้น กำลังมาแรงด้วยความที่ดูดิบ ๆ แต่คลาสสิคนั้นทำให้คนรุ่นใหม่ หันมานิยมและเลือกที่จะสร้างบ้านสไตล์นี้มากขึ้น และภายใต้ความสวยงามที่เรียบ ๆ แต่ทว่าโดดเด่นนั้น ไม่ว่าการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ไหนก็ทำให้บ้านปูนเปลือยที่สร้างจากปูนทีพีไอนี้ก็ทำให้ดูสวยได้แบบไม่ยากเย็น                                 ผนัง ปูนทีพีไอ เปลือยเป็นการสร้างที่เรียกได้ว่าช่วยประหยัดงบประมาณได้มากทีเดียว เพราะนอกจากจะสวยได้โดยไม่ต้องใช้สีเข้ามาเป็นส่วนประกอบแล้ว ผนังสไตล์นี้ยังตกแต่งให้เข้าดูสวยได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นกับ เฟอร์นิเจอร์ไม้หรืออื่น ๆ ก็สามารถเลือกประดับตกแต่งได้อิสระตามความชอบของผู้ตกแต่งเอง บ้านสไตล์ลอฟท์นี้ สร้างโดยการขัดมันปูนที่ผนัง และลงน้ำยาเคลือบเงา A100 เพื่อความสวยงาม                                 อีกทั้งเดี๋ยวนี้มีปูนซีเมนต์สำเร็จรูปที่มีสีในตัวเองออกมาให้เลือกใช้เพื่อความสะดวกสบาย และเพิ่มความหลากหลายในเรื่องของสีปูนเปลือย ทำให้การตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์นี้มีสีสันอื่น ๆ นอกเหนือจากสีเทาของ ปูนทีพีไอ ขึ้นไปอีกมิติ การดูแลรักษาบ้านปูนเปลือยนี้ ไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก เพียงแค่ต้องดูแลลงน้ำยาเคลือบใหม่ในทุก ๆ ปี การลงน้ำยาเคลือบใหม่นั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการเคลือบผิวของผนังปูนนั้นถึงจะไม่ช่วยลดการแตกของปูนซึ่งอาจจะเกิดขึ้น แต่ก็ช่วยลดการเกิดฝุ่นและขุยปูนได้ น้ำยาเคลือบนั้นสามารถหลุดร่อนออกได้เมื่อผ่านการใช้งานนาน ๆ แต่เราก็สามารถดูแลด้วยการลงน้ำยาเคลือบใหม่เมื่อพบการหลุดร่อน ก็เป็นการดูแลรักษาบ้านที่เรารัก ให้คงความสวยอยู่กับเราต่อไปนาน ๆ  

  ปูนฉาบที่มีความบางพิเศษ ส่วนใหญ่จะสามารถฉาบได้ความบางที่ 1-3 มิลลิเมตร เท่านั้น หลายคนจึงอาจจะเข้าใจว่า ความบางในระดับนี้เป็นความบางมากที่สุดแล้วเท่าที่การฉาบจะสามารถทำได้ แต่ความจริงแล้วยังมี ปูนฉาบแต่งผิวบางพิเศษ สีเทา ที่ให้งานฉาบมีความบางมากลงไปอีกที่ 1-3 มิลลิเมตร เท่านั้น ช่วยให้ผนังดูบางเบาและเรียบเนียนสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีก                                 คุณสมบัติโดยรวมแล้วของ ปูนฉาบแต่งผิวบางพิเศษ สีเทา จะค่อนข้างเหมือนกันกับปูนฉาบแต่งผิวบางพิเศษสีขาวอยู่พอสมควร เช่น มีส่วนผสมของสารอุ้มน้ำที่ช่วยทำให้ลดรอยแตกร้าวได้เป็นอย่างดี มีส่วนผสมของฟองอากาศที่ช่วยให้งานฉาบเรียบและลื่นอย่างง่ายดายไม่เปลืองแรง เพิ่มแรงยึดเกาะ ช่วยให้ปูนไม่หลุดร่อนในเวลาใช้งานอยู่ อีกทั้งเพิ่มระยะการก่อตัวช่วยให้ปูนสามารถเซ็ตตัว ได้อย่างเหมาะสม เนื้อปูนชนิดนี้จะมีความละเอียดมากกว่า เนื้อปูนฉาบชนิดอื่นหลายเท่าตัว จึงสามารถฉาบได้บนผนังทุกรูปแบบ ไม่ต้องทุบหรือสกัดผิวเดิมออกก็ทำให้ เรียบเนียนสวยได้                                 สำหรับการใช้งานของปูนฉาบแต่งผิวบางพิเศษ สีเทานั้น เพียงนำปูน 1 ถุง ขนาด 50 กิโลกรัมมาผสมเข้ากับน้ำ 16-18 ลิตร การผสมก็สามารถผสมได้อย่างง่ายดาย เพียงนำน้ำเติมใส่เนื้อปูนทีละนิด แล้วใช้สว่านไฟฟ้าที่ติดใบกวนเอาไว้กวนให้เนื้อปูนและน้ำเข้ากันจนเป็นเนื้อครีมข้นก็สามารถนำมาใช้งานได้แล้ว ปูนควรใช้งานให้หมด ภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากที่ผสมเข้ากับน้ำแล้ว    

ปูนกาวปูกระเบื้องทั่วไป เป็นตัวช่วยที่ดีที่ช่วยให้งานปูกระเบื้องเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทุ่น ทั้งแรงและเวลาในการปูกระเบื้องได้เป็นอย่างดี กาวมีความเหนียวช่วยให้กระเบื้องสามารถติดได้อย่างแน่นหนา ไม่หลุดออกอย่างง่ายดาย ช่วยเพิ่มระยะเวลาในการเปิดหน้าปูน จึงทำให้สามารถติดกระเบื้องและเรียงสวยตามที่ต้องการได้ สามารถใช้งานกับการติดกระเบื้องทั้งผิวพื้นและผนัง เหมาะอย่างมากสำหรับงานติดกระเบื้องภายในที่เป็นแบบดูดซับน้ำ                                 คุณสมบัติพิเศษของ ปูนกาวปูกระเบื้องทั่วไป คือ สามารถทนต่ออุณหภูมิ -10-+ 60 องศาเซลเซียส ช่วงเวลาในการปาดกาวกระเบื้องจนถึงการติดกระเบื้องใช้เวลาเพียง 20 นาที เท่านั้น หากผสมกาวติดกระเบื้องแล้วจำเป็นต้องใช้งานให้หมดภายใน 4 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานแบบเต็มที่และคุณภาพที่ดีต่อการปูกระเบื้องใช้เวลาเพียง 10 นาที ในการจัดแต่งหรือจัดเรียงกระเบื้อง ความหนาของการปาดกาวกระเบื้องอยู่ที่ประมาณ 2-6 มิลลิเมตร 1 ถุงขนาด 20 กิโลกรัม สามารถใช้งานได้ประมาณ 4 ตารางเมตร                                 หลังจากที่ใช้งาน ปูนกาวปูกระเบื้องทั่วไปและปูกระเบื้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรปล่อยให้แห้งก่อน อย่างน้อย 24 ชั่วโมง แล้วจึงเริ่มยาแนวกระเบื้อง อีกทั้งต้องปล่อยให้กระเบื้องแห้งสนิทก่อน 24-48 ชั่วโมง ก่อนที่จะสามารถเปิดใช้งานพื้นที่ได้ การใช้งานกาวกระเบื้องแต่ละครั้งควรใช้เวลาในการทำงานตามที่กำหนด อีกทั้ง ปล่อยให้กระเบื้องได้ยึดเกาะอย่างแน่นหนาก่อนที่จะเข้าใช้งานพื้นที่ เพื่อลดการหลุดร่อนของกระเบื้องเมื่อยังไม่แน่นสนิทแล้วต้องรับแรงกดทับ ราคากาวกระเบื้องส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 100-200 […]